- รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ
- ฝึกฝนให้เป็นนตรงต่อเวลา
- ไดเผชิญหน้ากันปัญหาจริง และแก้ไขปัญหาได้จริง
- ฝึกฝนบุคลิกภาพ ทำให้เป็นคนมีบุคลิกภาพดี ในสายตาของบุคคลภายนอกที่มองเข้ามา
- ฝนให้เป็นคนมีความรับผิดชอบ
- ทำให้รู้ว่าเวลาทุกวินาทีมีความสำคัญ ถ้าเราทำพลาดไปแม้แต่วินาทีเดียว ก็อาจทำให้เราพลาดโอกาสดีๆที่จะเข้ามาในชีวิตของเราได้
- ทำให้รู้และเข้าใจความหมายของคำว่าสามัคคีมากขึ้น
- รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเรา
วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ
สิ่งที่ได้รับจากการเรียนเตรียมฝึกวิชาชีพการบริหารธุรกิจ
DTS11-16-09-2552
SORTING (ต่อ)
การค้นหาข้อมูล searching แบ่งเป็น 2 ประเภท
การค้นหาแบบเชิงเส้นหรือการค้นหาตามลำดับ (Linear)
การค้นหาแบบเซนทินัล (Sentinel)
การค้นหาแบบไบนารี (Binary Search)
การค้นหาข้อมูล searching แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.การค้นหาข้อมูลแบบภายใน
2.การค้นหาข้อมูลแบบภายนอก
การค้นหาแบบเชิงเส้นหรือการค้นหาตามลำดับ (Linear)
ใช้ กับข้อมูลที่ยังไม่ได้เรียงลำดับ มีวิธีโดยการนำข้อมูลที่ต้องการหามาเปรียบเทียบกับข้อมูลในแถวลำดับ ถ้าค่าข้อมูลที่ต้องการหาไม่ตรงกับค่าข้อมูลในแถวลำดับก็ทำการค้นหาไป เรื่อยๆ จนเจอค่าข้อมูลที่ต้องการจึงจะหยุดการค้นหา หรือจะหยุดการค้นหาก็ต่อเมื่อไม่พบค่าข้อมูล
การค้นหาแบบเซนทินัล (Sentinel)
มี ลักษณะเช่นเดียวกับการค้นหาแบบเชิงเส้น แต่การค้นหานั้นเป็นการเปรียบเทียบค่าน้อยกว่าการค้นหาแบบเชิงเส้น มีวิธีโดยการเพิ่มพื้นที่ที่เก็บข้อมูลอีก 1 ที่ แล้วนำข้อมูลที่ต้องการค้นหาไปใส่ไว้ที่ต้น หรือท้ายอาเรย์ แล้วทำการตรวจสอบ ถ้าตำแหน่งที่พบเท่ากับ n-1 แสดงว่าหาข้อมูลไม่พบ นอกนั้นถือว่าพบข้อมูลที่ต้องการค้นหา
การค้นหาแบบไบนารี (Binary Search)
จะ ใช้กับข้อมูลที่เรียงลำดับแล้วเท่านั้น โดยแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ส่วน การค้นหาเป็นวิธีค้นหาที่ไปยังค่ากลางเพื่อตรวจสอบหรือเปรียบเทียบว่าใช่ ข้อมูลที่ต้องค้นหาหรือไม่ และจะละทิ้งข้อมูลส่วนหน้าหรือส่วนหลังขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่ต้องการค้นหา มีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่าข้อมูลค่ากลาง
DTS10-09-09-2552
SORTING
การ จัดเรียงข้อมูลนับเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการดำเนินการกับข้อมูลเพื่อประโยชน์ ในการจัดการกับข้อมูล การค้นหา หรือการดำเนินการอย่างอื่นได้สะดวกและรวดเร็ว มากกว่าข้อมูลที่ไม่มีการจัดเรียง เช่น การจัดเรียงหนังสือในห้องสมุด การจัดเรียงคำศัพท์ในพจนานุกรม ระบบการจัดเรียงจะมีรูปแบบของการจัดเรียงที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม และสำหรับรูปแบบของการจัดเรียงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก็มีหลากหลายรูปแบบที่ใช้ ในการจัดเรียงข้อมูล ซึ่งรูปแบบที่กำหนดขึ้นมานั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปขึ้นอยู่ กับการเลือกให้เหมาะสมกับข้อมูลแต่ละชนิด
การเรียลำดับอย่างมีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึง
- เวลาและแรงงานที่ต้องใช้ในการเขียนโปรแกรม
วิธีการเรียงลำดับ
วิธีการเรียงลำดับสามารถแบ่งออกได้ 2 วิธี
การเรียงลำดับแบบเลือก
เป็น วิธีที่ง่าย แต่เสียเวลาในการจัดเรียงนาน โดยจะทำการเลือกข้อมูลมาเก็บไว้ตามตำแหน่งที่กำหนด คือ กำหนดให้เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามาก ก็จะทำการเลือกข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยที่สุดมาอยู่ที่ตำแหน่งแรกสุด และค่าที่อยู่ตำแหน่งแรกก็จะมาอยู่แทนที่ค่าน้อยสุด แล้วทำการเลือกไปเรื่อยๆ จนครบทุกค่า ค่าที่ได้ก็จะเรียงจากน้อยไปหามาก
ทำการเลือกข้อมูลมาเก็บในตำแหน่งที่ ข้อมูลนั้นควรจะอยู่ทีละ
ตัว โดยทำการค้นหาข้อมูลนั้นในแต่ละรอบแบบเรียงลำดับ
ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากน้อยไปมาก
1. ในรอบแรกจะทำการค้นหาข้อมูลตัวที่มค่าน้อยที่สุดมาเก็บ
ไว้ที่ตำแหน่งที่ 1
2. ในรอบที่สองนำข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยรองลงมาไปเก็บไว้ที่
ตำแหน่งที่สอง
3. ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทงครบทุกคำ
ในที่สุดจะได้ข้อมูลเรียงลำดับจากน้อยไปมากตามที่ต้องการ
เป็น การเรียงลำดับโดยเปรียบเทียบข้อมูลที่อยู่ติดกัน โดยจะทำการเปรียบเทียบคู่ไหนก่อนก็ได้ คือ ถ้าข้อมูลอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องก็จะทำการสลับตำแหน่งกัน การเรียงลำดับแบบฟองเป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อนมากนัก นิยมใช้เนื่องจากเข้าใจง่าย
การเรียงลำดับแบบเร็ว
เป็น วิธีที่ใช้เวลาน้อย เหมาะกับข้อมูลที่มีจำนวนมาก โดยจะเลือกข้อมูลมาหนึ่งค่ามาเป็นค่าหลัก ถ้าเป็นการเรียงจากค่าน้อยไปหาค่ามาก แล้วให้ตำแหน่งที่ 1 เป็นค่าหลัก ทำการเปรียบเทียบจากตำแหน่งท้ายไปเรื่อยๆ จนเจอค่าที่น้อยกว่าค่าหลัก แล้วทำการสลับตำแหน่งกัน หลังจากสลับตำแหน่งให้นำค่าหลักเปรียบเทียบกับข้อมูลตำแหน่งที่ 2,3 จนพบข้อมูลที่มีค่ามากกว่าค่าหลักแล้วทำการสลับตำแหน่งกัน ทำลักษณะนี้เรื่อยๆจนข้อมูลเรียงถูกต้อง
การเรียงลำดับแบบแทรก
เป็น วิธีที่พิจารณาเลขที่ละหลัก โดยจะพิจารณาเลขหลักหน่วยก่อน แล้วทำการจัดเรียงข้อมูลทีละตัวตามกลุ่มหมายเลข จากนั้นนำข้อมูลที่จัดเรียงในหลักหน่วยมาจัดเรียงในหลักสิยต่อไปเรื่อยๆจน ครบทุกหลัก ก็จะได้ข้อมูลที่ต้องการ การเรียงลำดับแบบฐานไม่ซับซ้อน แต่ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำมาก
การ จัดเรียงข้อมูลนับเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการดำเนินการกับข้อมูลเพื่อประโยชน์ ในการจัดการกับข้อมูล การค้นหา หรือการดำเนินการอย่างอื่นได้สะดวกและรวดเร็ว มากกว่าข้อมูลที่ไม่มีการจัดเรียง เช่น การจัดเรียงหนังสือในห้องสมุด การจัดเรียงคำศัพท์ในพจนานุกรม ระบบการจัดเรียงจะมีรูปแบบของการจัดเรียงที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม และสำหรับรูปแบบของการจัดเรียงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก็มีหลากหลายรูปแบบที่ใช้ ในการจัดเรียงข้อมูล ซึ่งรูปแบบที่กำหนดขึ้นมานั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปขึ้นอยู่ กับการเลือกให้เหมาะสมกับข้อมูลแต่ละชนิด
การเรียลำดับอย่างมีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึง
- เวลาและแรงงานที่ต้องใช้ในการเขียนโปรแกรม
- เวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการทำงาน
- จำนวนเนื้อที่ในหน่วยความจำ
วิธีการเรียงลำดับ
วิธีการเรียงลำดับสามารถแบ่งออกได้ 2 วิธี
1.การเรียงลำดับแบบภายใน เป็นการเรียงลำดับข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก เวลาที่ใช้จะคำนึงถึงเวลาที่ใช้เปรียบเทียบและเลื่อนข้อมูล
2.การ เรียงลำดับแบบภายนอก เป็นการเรียงลำดับข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำสำรอง เวลาที่ใช้จะคำนึงถึงเวลาที่เสียไประหว่างการถ่ายเทข้อมูล
การเรียงลำดับแบบเลือก
เป็น วิธีที่ง่าย แต่เสียเวลาในการจัดเรียงนาน โดยจะทำการเลือกข้อมูลมาเก็บไว้ตามตำแหน่งที่กำหนด คือ กำหนดให้เรียงข้อมูลจากค่าน้อยไปหาค่ามาก ก็จะทำการเลือกข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยที่สุดมาอยู่ที่ตำแหน่งแรกสุด และค่าที่อยู่ตำแหน่งแรกก็จะมาอยู่แทนที่ค่าน้อยสุด แล้วทำการเลือกไปเรื่อยๆ จนครบทุกค่า ค่าที่ได้ก็จะเรียงจากน้อยไปหามาก
ทำการเลือกข้อมูลมาเก็บในตำแหน่งที่ ข้อมูลนั้นควรจะอยู่ทีละ
ตัว โดยทำการค้นหาข้อมูลนั้นในแต่ละรอบแบบเรียงลำดับ
ถ้าเป็นการเรียงลำดับจากน้อยไปมาก
1. ในรอบแรกจะทำการค้นหาข้อมูลตัวที่มค่าน้อยที่สุดมาเก็บ
ไว้ที่ตำแหน่งที่ 1
2. ในรอบที่สองนำข้อมูลตัวที่มีค่าน้อยรองลงมาไปเก็บไว้ที่
ตำแหน่งที่สอง
3. ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทงครบทุกคำ
ในที่สุดจะได้ข้อมูลเรียงลำดับจากน้อยไปมากตามที่ต้องการ
เป็น การเรียงลำดับโดยเปรียบเทียบข้อมูลที่อยู่ติดกัน โดยจะทำการเปรียบเทียบคู่ไหนก่อนก็ได้ คือ ถ้าข้อมูลอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องก็จะทำการสลับตำแหน่งกัน การเรียงลำดับแบบฟองเป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อนมากนัก นิยมใช้เนื่องจากเข้าใจง่าย
การเรียงลำดับแบบเร็ว
เป็น วิธีที่ใช้เวลาน้อย เหมาะกับข้อมูลที่มีจำนวนมาก โดยจะเลือกข้อมูลมาหนึ่งค่ามาเป็นค่าหลัก ถ้าเป็นการเรียงจากค่าน้อยไปหาค่ามาก แล้วให้ตำแหน่งที่ 1 เป็นค่าหลัก ทำการเปรียบเทียบจากตำแหน่งท้ายไปเรื่อยๆ จนเจอค่าที่น้อยกว่าค่าหลัก แล้วทำการสลับตำแหน่งกัน หลังจากสลับตำแหน่งให้นำค่าหลักเปรียบเทียบกับข้อมูลตำแหน่งที่ 2,3 จนพบข้อมูลที่มีค่ามากกว่าค่าหลักแล้วทำการสลับตำแหน่งกัน ทำลักษณะนี้เรื่อยๆจนข้อมูลเรียงถูกต้อง
การเรียงลำดับแบบแทรก
เป็น วิธีที่ทำการเพิ่มสมาชิกใหม่เข้าไปในเซต โดยทำการเปรียบเทียบข้อมูลในเซต กับข้อมูลที่ต้องการแทรก ถ้าเรียงจากค่าน้อยไปหาค่ามาก จะต้องให้ข้อมูลที่มีค่าน้อยอยู่ก่อนหน้าข้อมูลที่มีค่ามาก
เป็น วิธีที่พิจารณาเลขที่ละหลัก โดยจะพิจารณาเลขหลักหน่วยก่อน แล้วทำการจัดเรียงข้อมูลทีละตัวตามกลุ่มหมายเลข จากนั้นนำข้อมูลที่จัดเรียงในหลักหน่วยมาจัดเรียงในหลักสิยต่อไปเรื่อยๆจน ครบทุกหลัก ก็จะได้ข้อมูลที่ต้องการ การเรียงลำดับแบบฐานไม่ซับซ้อน แต่ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำมาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)